“คุณรักษาฝ้าหมดค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ ? “
“แต่มันก็ไม่เคยหายไปจากผิวหน้าของคุณเลยใช่ไหมคะ ? “

วันนี้หมอแนทจะมาบอกความจริงกับคุณที่ว่า “ฝ้าไม่มีวันหายไปจากชีวิต” เพราะงานวิจัยทางการแพทย์ระบุไว้ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะรักษาด้วยวิธีไหน ฝ้าก็ไม่มีทางหายอยู่ดีค่ะ

อ้าว !! แล้วทำไมหมอแนทถึงกล้าพูดว่าที่ Drippew by Doctor Nat Clinic  ช่วย “แก้ไขปัญหาฝ้าด้วยเทคนิคศัลยกรรมสร้างผิวใหม่ MISS Surgery” กลับบ้านไปคุณจะไม่เจอ “ฝ้า” อีกแล้วล่ะคะ คนไข้หลายคนคงเกิดคำถาม

ใจเย็นก่อนนะคะ เทคนิคแก้ปัญหาฝ้าของหมอแนท ไม่ใช่วิธีเดียวกับการรักษาฝ้าทั่วไปอย่างเช่น การยิงเลเซอร์สลายฝ้า หมอขอย้ำอีกครั้งว่า เรา “แก้ไข” ฝ้าที่คุณเป็นอยู่ ไม่ใช่ “รักษาให้หายขาด” แต่อย่างใด เพราะฝ้าเปรียบเหมือนเม็ดสีขนาดใหญ่ที่รักษาไม่หาย

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า “ฝ้า” คืออะไร ? ลักษณะของฝ้าจะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม บางครั้งมีสีดำอมฟ้า หรือแดง ส่วนมากจะพบที่บริเวณโหนกแก้มมากกว่าจุดอื่นบนใบหน้า ซึ่งมีหลายชนิด

  1. ฝ้าตื้น (Epidermal type) จะเห็นขอบเขตฝ้าชัดเจนขึ้นบริเวณหนังกำพร้า
  2. ฝ้าลึก (Dermal type) เกิดบริเวณหนังแท้ใต้หนังกำพร้า สีน้ำตาลอ่อน สีเทา สีเทาอมฟ้า ขอบเขตจะไม่ชัดเจน
  3. ฝ้าผสม (Mix type) เป็นการผสมระหว่างฝ้าลึกและฝ้าตื้น เป็นฝ้าประเภทที่คนไทยส่วนใหญ่มักเป็นกัน

 

และฝ้าชนิดพิเศษอีกตัวคือ ฝ้าเลือด (telangiectatic Melasma) เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนใบหน้าเนื่องจากผิวหนังรับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดเป็นเวลานาน เส้นเลือดฝอยในชั้นหนังแท้จึงเพิ่มจำนวนขึ้นหรือเสื่อมสภาพ ทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยแตกแขนงเป็นกระจุกบนผิวหน้า เกิดเป็นรอยสีชมพู สีน้ำตาลแดง ไปจนถึงสีคล้ำ เรียกว่า “ฝ้าเลือด”

ก่อนเข้ารับการรักษาฝ้า หมอแนทมีการวิเคราะห์ชนิดของฝ้าให้กับคนไข้ เพื่อหาว่า ฝ้าที่คนไข้เป็นนั้น คือฝ้าชนิดใด ด้วยการวิเคราะห์ผ่าน Melasma LAB ที่ Drippew by Doctor Nat Clinic

Melasma LAB คือ การตรวจฝ้าโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นแสง คลื่นแสงช่วง 340 – 400 nm พีคคลื่นอยู่ที่ 365 nm ตรวจในทุกชั้นผิว เพื่อช่วยในการวินิจฉัยว่าเราเป็นฝ้าที่ชั้นไหนบ้าง และรักษาในชั้นที่ถูกต้อง

การยิงเลเซอร์เป็นการปล่อยพลังงานความร้อนออกไปทำให้เม็ดสีที่เกาะกลุ่มกันบนผิวหน้า ที่เป็นเม็ดสีขนาดใหญ่แตกออกจากกันจนมีขนาดเล็กลง ด้วยเลเซอร์ทางการแพทย์ เช่น IPL, Q-switched Nd:YAG laser, Fractional Laser, Picosecond Laser สามารถช่วยให้จางลงได้เพียง 25% และสามารถสลายฝ้าให้จางลงได้เพียงแค่ 6 เดือน เมื่อเวลาผ่านไป ฝ้าที่รักษาด้วยวิธีการเลเซอร์ข้างต้น ก็จะกลับมาอีกเช่นเดิม (อ้างอิงจากงานวิจัยของ ศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ หัวหน้าภาควิชาจิตวิทยา สาขาวิชาตจศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล)

การยิงเลเซอร์ควรจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะเลือกรักษา เพราะการใช้เลเซอร์มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเลเซอร์ในการรักษาฝ้ายังมีจำกัด เลเซอร์จึงจัดเป็นเพียงการรักษาเสริมสำหรับการรักษาฝ้า (อ้างอิงงานวิจัยจากต่างประเทศ ( Lasers Med Sci. (2014) 29:589-598 และสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย)

จากการศึกษาเกี่ยวกับเลเซอร์ พบว่าการใช้เลเซอร์รักษาฝ้า โดยทำทุก ๆ 1 – 2 สัปดาห์ เป็นการรักษาที่บ่อยและเกินความจำเป็น ในทางปฏิบัติไม่แนะนำให้ทำการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์บ่อย ๆ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ โดยเฉพาะรอยขาวจากเลเซอร์ (mottled hypopigmentation)

 และผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการยิงเลเซอร์นั้นมีมากมาย เช่น
ผิวไวต่อแสง ห้ามเผชิญแสงแดด 2-4 สัปดาห์แรกโดยเด็ดขาด
ผิวแพ้บอบบาง ต้องงดสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดเพราะอาจทำให้อักเสบ
ผิวแห้ง ตกสะเก็ด เป็นขุย เพิ่มโอกาสการกลับมาเป็นฝ้าง่ายขึ้นกว่าเดิม
ฝ้าอาจเข้มขึ้น มีรอยขาว เพราะพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ไม่เท่ากันทั่วหน้า
อาจบาดเจ็บและเกิดแผลจากการรักษา

ในเมื่อ “ฝ้า” รักษาไม่หายอย่างนี้แล้ว หมอแนทจึงเปลี่ยนวิธีการรักษาจากการยิงเลเซอร์รักษาฝ้า แล้วหันไปศึกษาเทคนิคที่ตอบโจทย์คนเป็นฝ้าได้มากกว่านี้

จนค้นพบว่าเทคนิคใหม่ที่หมอแนทตั้งชื่อว่า MISS Surgery ที่ย่อมาจาก Melasma Innovative Stemcell Surgery หรือ “ศัลยกรรมสร้างผิวใหม่แก้ไขปัญหาฝ้า”

จริงที่ว่า ฝ้ารักษาไม่ได้ แต่หมอแนทแก้ไขฝ้าให้คุณได้ ด้วยการสร้างผิวที่แข็งแรงขึ้นมาทดแทนผิวที่เคยเสียหายไปแล้ว โดยใช้เทคนิค MISS Surgery เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในทุกชั้นผิวทั้ง 3 ชั้น ด้วยเทคนิคนี้ “ฝ้าของคุณก็จางลง ช่วยให้ผิวใส เสริมความมั่นใจในตัวคุณ”

เทคนิคนี้จะช่วยแก้ปัญหา ฝ้าฝังลึก กระ ต่าง ๆ หน้าไม่บาง รักษาผิวได้ทุกระดับชั้น และเน้นย้ำบริเวณที่มีปัญหามากได้ ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง  ไม่ดูดกลืนแสง ลดการเกิดฝ้า ผิวหน้าไม่บางลง ทำให้ผิวที่เคยเสียหายไปบางส่วน ได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรงขึ้น และยังช่วยลดจุดด่างดำ รอยดำ ทำให้ผิวกลับมามีสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ หลังทำการรักษาคุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าจากเดิมแน่นอนค่ะ

หลังทำโปรแกรมนี้จะมีเพียงอาการบวมบริเวณที่ศัลยกรรมฝ้าและจะหายบวมได้เองภายใน 3-7 วัน