ที่เห็นผิวหน้าสวย ๆ เรียบเนียนของหมอ คุณอาจจะคิดว่าหมอนั้นโชคดีที่ได้กรรมพันธุ์ผิวดีมาจากคุณพ่อคุณแม่ แต่…ความจริงไม่ใช่เลย “ครอบครัวหมอแนทเป็นสิวกันทุกคน”
หมอแนทเองก็เป็นสิวทั่วหน้า จนถึงขั้นที่ว่าไม่อยากไปเรียนหนังสือ เพราะอายเพื่อน เคยถึงขนาดที่ โบกรองพื้นหมดเป็นขวด ๆ เพื่อปิดรอยสิว แต่ก็ปิดยังไงก็ปิดไม่มิด คนก็ยังมองสิวแทนมองหน้าเราอยู่ดี กลายเป็นคนไม่มั่นใจในผิวหน้าตัวเอง
หรืออย่างคุณพ่อของหมอเป็นสิวหัวช้าง หัวหนอง เป็นมาตั้งแต่อายุ 15 เรียกได้ว่าฮอร์โมนวัยรุ่นมา ก็ใช้ชีวิตอยู่แต่กับสิว
จนอายุ 60 พ่อก็ยังให้หมอแนทฉีดยารักษาสิวให้อยู่เลย และสิวหัวช้างที่อยู่กับคุณพ่อมาเกือบทั้งชีวิตนั้น พอเวลานานไปยิ่งทำร้ายจิตใจไปกันใหญ่ เพราะมันเริ่มกัดกินผิวหน้า จากที่เป็นสิวแบบที่พอมีหวังจะหายได้ ก็กลายเป็น “หลุมสิว” ทั่วทั้งหน้า จนพ่อเคยบอกกับหมอแนทว่า “คงไม่มีทางรักษาแล้วล่ะลูก”
ความปวดใจในวันนั้นจากปัญหาหลุมสิวของคุณพ่อว่าหนักแล้ว ตอนหมอแนทยังเด็กๆ มีประโยคหนึ่งที่เคยถามคุณพ่อไป
“หน้าพ่อไปโดนอะไรมา ทำไมเนื้อหายเป็นหย่อมๆ ทั่วหน้าเลย..หนูอายเพื่อนที่โรงเรียน”
คุณพ่อเล่าให้หมอแนทฟังตอนโต ว่าหมอแนทเคยพูดกับคุณพ่อแบบนี้เมื่อตอนที่อยู่อนุบาล หมอยิ่งรู้สึกแย่ มันเป็นแผลใจในที่เคยพูดแบบนั้นใส่คุณพ่อ เลยอยากหาทางช่วยรักษาคุณพ่อให้หายจาก “ความทุกข์” นี้ให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ด้วยความที่หมอเรียนแพทย์มา จึงตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อตั้งใจอยากมารักษาคนในครอบครัว รวมถึงได้มีความรู้มาดูแลตัวเองและป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้สิวกลายเป็นหลุมสิวแบบคุณพ่อ
หมอแนทเริ่มต้นด้วยความหวัง คือ “อยากช่วยให้ทุกคนในครอบครัวหลุดพ้นจากทุกข์ของการเป็นสิว”
ตอนนั้นร้อนวิชา ไม่ว่าเลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวไหนที่มีงานวิจัยว่าดีที่สุด แพงที่สุดในช่วงเวลานั้น หมอแนทจับพ่อมายิงหมด นับ ๆ ดูแล้วคงไม่ตั้งกว่า 30 ครั้ง หวังว่าจะช่วยให้หน้าของคุณพ่อดีขึ้น
แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะสิ่งที่พ่อตอบกลับมา มันทำให้หมอแนทหน้าชาไปหมด สิ่งที่คิดว่าดี กลายเป็นสิ่งที่ “ทำร้ายพ่อ”
พ่อบอกว่า “มันแสบหน้ามากเลยลูก ยิงมาหลายรอบแล้ว มันไม่ดีขึ้นเลย หลุมมันฟูได้แปบเดียว พ่อแสบร้อนไปหมด พ่อว่ามันคงไม่มีทางเรียบได้กว่านี้แล้วล่ะ”
หมอได้ยินแบบนั้นก็ปวดใจ เพราะพอเงยดูหน้าหลังจากที่พ่อพูดจบ ก็เป็นอย่างที่พ่อบอกจริงๆ คือ “หลุมสิวไม่ตื้นขึ้น” แบบเห็นได้ชัดเหมือนที่เราตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่หมอก็เลเซอร์ให้พ่อแทบทุกตัวแล้ว
และสิ่งที่พ่อได้แถมมา กลับเป็นสิ่งที่ทำให้หมอแนทเจ็บปวดยิ่งกว่า คือ ฝ้าปื้นดำ ๆ ขึ้นที่แก้มทั้งสองข้างของคุณพ่อ
ตอกย้ำความเจ็บปวดเข้าไปอีก เพราะ มันเป็นจุดที่กับที่หมอยิงเลเซอร์ย้ำๆ ซ้ำๆ อัดพลังงานให้สูงๆ เพราะหวังผลว่า คนที่เรารักจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผลลัพธ์ที่ทำให้คุณพ่อในวันนั้นกลายเป็น “ความรู้สึกผิดกับคุณพ่อ” ที่อยู่ในใจหมอแนทมาตลอด แล้วยิ่งกับคนไข้ที่หมอเคยยิงเลเซอร์รักษาหลุมสิวไปหลายพันคนแล้วนี่ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นเต็มหัวไปหมด
หมอจะบาปหนักแค่ไหน..กับความโง่เขลาของตัวเอง
จากความรู้สึกผิดที่รักษาคุณพ่อไม่หายและทำให้พ่อเป็นฝ้าเพิ่มขึ้นมาอีก หมอจึงทุ่มเทค้นคว้าทุกงานวิจัยเพื่อหาหนทางรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด เจ็บน้อยที่สุด ไม่มีบาดแผล และต้องเห็นผลให้กับคุณพ่อและคนไข้ที่มารักษากับหมอ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเทคนิค MASS Surgery (Micro Acne Scar Surgery) ศัลยกรรมหลุมสิวแบบไร้แผล
เมื่อเกิดเหตุการณ์วันนั้นขึ้น จึงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ที่ทำให้หมอเริ่มค้นคว้า ศึกษางานวิจัยอย่างหามรุ่งหามค่ำ ด้วยความรู้สึกผิดในใจต่อคุณพ่อตัวเองและต่อคนไข้อีกหลายคน หมอจึงอ่าน textbook อ่านงานวิจัยนับพันฉบับ เรียกได้ว่า ไม่มีฉบับไหนที่เกี่ยวกับหลุมสิวที่ยังไม่ผ่านตาหมอแนทเลย
และสุดท้ายหมอก็ได้คำตอบว่า เราผิดพลาดมาตลอดที่เราไม่เคยรู้เรื่องนี้!!!
“การยิงเลเซอร์ไม่ได้รักษาที่ต้นตอเพราะเลเซอร์เป็นพลังงานแนวดิ่ง ไม่สามารถตัดพังผืดในแนวราบ ถ้าอยากรักษาให้หายชนิดที่ว่าชาตินี้ไม่ต้องกลับมาเป็นหลุมสิวอีกเลย ต้องรักษาที่ต้นตอ นั่นคือ การตัดชั้นพังผืดที่เหนียวเหมือนการเลาะกระสอบทรายที่มีถึงทั้ง 3 ชั้น (ชั้นบน ชั้นกลาง และชั้นลึก)
พอได้คำตอบที่ตามหา แน่นอนว่า คุณพ่อของหมอเป็นหนูทดลองให้คนแรก ก่อนทำพ่อกลัวมากกลัวเจ็บ กลัวแสบ กลัวหลายอย่างเหมือนที่คนไข้หลาย ๆ คนกังวลเลย
แต่ตอนทำ พ่อบ่นเจ็บแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น ระหว่างทำ พ่อพูดเลยว่า “กดสิวยังเจ็บกว่าทำศัลยกรรมหลุมสิวอันนี้อีกลูก”
ตอนแรกหมอแนทก็แอบกังวลว่าทำไปจะช่วยพ่อได้ไหม ? ไม่อยากเกิดความรู้สึกผิดในใจกับคุณพ่ออีก
แต่เหมือนความตั้งใจของหมอแนทครั้งนี้ได้ผล พอผ่านไป 3 เดือน อยู่ๆ พ่อเดินมาบอกว่า “ทำไมไม่ทำเทคนิคนี้ให้พ่อตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วล่ะลูก เลเซอร์ที่ทำมาชั่วชีวิตเรียกว่าเทียบไม่ได้เลย หลุมสิวตื้นขึ้น ฝ้าที่ได้จากเลเซอร์ก็จางลง เหมือนปัญหาทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นเลยลูก”
จากคำพูดของคุณพ่อในตอนนั้น ทำให้หมอแนทมั่นใจว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว จึงตั้งปณิธานว่าจะรักษา “หลุมสิว” ให้คนไข้ให้เหมือนดูแลคนในครอบครัว
จากตอนนั้นจนถึงวันนี้ 10 ปีแล้วที่ คนไข้ผ่านการรักษาหลุมสิวจากมือหมอมามากกว่า 10,000 ครั้งหมอแนทได้ฝึกมือจากการตัดความเหนียวของพังผืดของคนไข้ ที่มีหลากหลายแบบ ระดับความเหนียวไม่เท่ากัน จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในเทคนิคนี้ ที่ไม่ว่าคุณจะมีหลุมสิวหนักขนาดไหน เชื่อมือหมอแนทได้ 100% ด้วยเทคนิค MASS Surgery ศัลยกรรมหลุมสิวแบบไร้แผล
วินาทีที่คนไข้ทุกคนกลับมาขอบคุณที่เราให้ผิวใหม่กับเค้า รอยยิ้ม และแววตาที่มีความสุขที่เปี่ยมล้นออกมามันมีความสุขเกินกว่าตัวเงินที่ได้รับจริงๆค่ะ
ทุกเคสหมอตั้งใจทำเต็มที่ รักษาคนไข้เหมือนที่เราตั้งใจให้สิ่งที่ดีที่สุดกับครอบครัว
หากคุณกำลังลังเลที่จะเปิดใจรักษาหลุมสิวอีกครั้ง หมอแนทอยากบอกคุณว่า เราอาจไม่ใช่ที่แรกที่คุณนึกถึง แต่ขอเป็น “ที่สุดท้าย” ที่คุณจะมาจบ “ปัญหาหลุมสิว” นะคะ
ที่สำคัญตอนนี้หมอแนทยังพร้อมที่จะช่วยคุณดูแล แก้ไข “ปัญหาสิว ฝ้า หน้ามีรูขุมขน” ทุกปัญหาผิวหน้าที่จะมาขัดขวางโอกาสและความมั่นใจในชีวิต ถ้าคุณอยากมีผิวหน้าใหม่ ที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น คุณสามารถส่งรูปถ่ายปัญหาผิวของคุณเข้ามาปรึกษากับหมอแนททางออนไลน์ก่อนได้เลยนะคะ
“ไม่ว่าปัญหาของคุณจะหนักแค่ไหน คุณคู่ควรกับผิวหน้าใหม่ที่เรียบเนียบได้ตลอดชีวิตขอให้ทุกปัญหาผิวหน้ามาจบที่ Drippew By Dr. Nat Clinic นะคะ”
หมอแนท Drippew By Dr.Nat Clinic
แพทย์ชำนาญการทำศัลยกรรมหลุมสิวและรอยแผลเป็น (MASS Surgery ,MISS Surgery ,MUSS Surgery)
ที่อยู่ 132/3 ถ.ลาดพร้าว ซอย 4 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900